วันอาทิตย์ที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2555

รูปภาพเกี่ยวกับโทรคมนาคมเพื่อการศึกษา

ภาพโทรคมนาคมเพื่อการศึกษา

การสื่อสารผ่านดาวเทียมเพื่อการศึกษา มีตัวอย่างภาพดังนี้













ภาพการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม

การสื่อสารผ่านเคเบิ้ลใยแก้วนำแสง มีตัวอย่างภาพดังนี้






ภาพใยแก้วนำแสง


ภาพห้องเก็บชุมสายโทรศัพท์


ภาพการใช้ Facebook



ภาพการใช้อินเทอร์เน็ตของคนทุกเพศทุกวัย


ภาพระบบประชุมทางไกลผ่านระบบเครือข่าย  สำหรับการศึกษา

แบบฝึกหัด โทรคมนาคมเพื่อการศึกษา


1.โทรคมนาคม หมายถึงอะไร และมีประโยชน์ทางการศึกษาอะไรบ้างตอบ        การส่งสารสนเทศในรูปแบบของตัวอักษร ภาพ เสียงโดยใช้กระบวนการที่หลากหลาย เช่น คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า พลังงานไฟฟ้า หรือเคเบิลใยแก้วนำแสง ดาวเทียม เป็นต้น ไปยังผู้รับสารที่ต้องการเรียนรู้หรือการจัดการศึกษาในรูปแบบต่าง ๆ

2.การใช้ Facebook เป็นโทรคมนาคมเพื่อการศึกษาหรือไม่ ถ้าเป็นจงยกตัวอย่างประโยชน์ของ Facebookตอบ        เป็น เพราะจัดเป็นโทรคมนาคมการประชุมทางไกลผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ตัวอย่างประโยชน์ของ Facebook เช่น

               1)  ใช้สร้างกลุ่มเพื่อติดต่องาน นัดหมายงาน เผยแพร่ผลงาน หรือแสดงความเห็นร่วมกันได้
               2)  สามารถเผยแพร่ข่าวสาร ข้อมูลได้ทั้งตัวอักษร รูปภาพ วีดีโอ ฯลฯ
               3)  สามารถส่งข้อความถึงกันได้อย่างรวดเร็ว ไม่มีค่าใช้จ่าย
               4)  เป็นแหล่งการศึกษาได้ดี แม้จะอยู่ห่างกันไกลมาก ๆ
               5)  สามารถแสดงความคิดเห็นได้อย่างมีอิสระ และทั่วถึง


3.นิสิตสามารถรับชมโทรทัศน์ทางไกลผ่านดาวเทียมได้ด้วยวิธีทางใดบ้างตอบ                  ผ่านทางระบบ DSTV เป็นระบบโทรทัศน์ผ่านจานรับสัญญาณดาวเทียม ในย่านความถี่ KU-Band ที่เป็นระบบเดียวกับ ทรูวิชั่นส์ ซึ่งสามารถซื้อ ชุดรับสัญญาณดาวเทียม กับตัวแทนจำหน่ายของ ทรูวิชั่นส์ ได้ทั่วไป โดยไม่เสียค่าบริการรายเดือน โดยมีราคาประมาณชุดละ 12,000 บาท หรือหากมีเครื่องรับสัญญาณดาวเทียม ที่สามารถรับย่าน KU-Band ได้ ก็สามารถรับชมได้ เพราะระบบออกอากาศของสถานีฯ มิได้มีการเข้ารหัสไว้ จึงไม่ต้องใช้ Smart Card ในการรับชมรายการ
                        และผ่านทางระบบ CATV เป็นระบบโทรทัศน์ผ่านสายเคเบิล ซี่งสามารถรับชมได้ ในเขตกรุงเทพมหานคร และจังหวัดปริมณฑล แต่สามารถรับชมรายการได้เพียง 7 ช่อง และต้องเสียค่าบริการรายเดือน กับบริษัทเคเบิลทีวีที่ให้บริการ สามารถใช้ประโยชน์จากการเรียนการสอนทางไกลผ่านดาวเทียม โดยวิธีการศึกษาผ่านระบบอินเทอร์เน็ตได้อีกทางหนึ่ง โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายในด้านเนื้อหาวิชา (Free-of-charge Web-based Information Content) ทั้งในระบบรายการถ่ายทอดสด (Live Broadcast) และระบบรายการตามคำสั่ง (On Demand) ทางเว็บไซต์ของ มูลนิธิการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม และ สถานีวิทยุโทรทัศน์การศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม

4.ประโยชน์ของโทรทัศน์ทางไกลผ่านดาวเทียมมีอะไรบ้าง จงอธิบายตอบ          1)  ในด้านการศึกษา เพื่อแก้ไขการ
ประสบปัญหาการขาดแคลนครูที่สอนระดับมัธยมศึกษาตลอดมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในโรงเรียนศึกษาสงเคราะห์ โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ และโรงเรียนที่อยู่บริเวณชายแดน

                  2)  ใช้ประโยชน์ได้ทั้งกับการศึกษาในระบบโรงเรียน และการศึกษาตามอัธยาศัยหรือการศึกษานอกระบบโรงเรียน รวมทั้งผู้สนใจศึกษาทั่วไป
                  3)  แก้ปัญหาด้านระยะทางที่มีผลต่อการได้รับการศึกษา
                  4)  นักเรียนที่อยู่ห่างไกลมีสิทธิ์ได้รับการศึกษาที่เท่าทียมกับนักเรียนในตัวเมืองมากยิ่งขึ้น
                  5)  ช่วยให้ผู้ที่อยู่ห่างไกลได้ติดตามข่าวสารบ้านเมืองอย่างทันเหตการณ์
5.นิสิตรับชมรายการจาก http://www.youtube.com/watch?v=OvUsY7oTEQc และจงอธิบายถึงประวัติความเป็นมาของสถานีโทรทัศน์ทางไกลผ่านดาวเทียมไทยคมตอบ            สถานีวิทยุโทรทัศน์การศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม หรือ Distance learning Television (DLTV) ก่อตั้งเมื่อ พ.ศ.2539 เพื่อเฉลิมพระเกียรติในมหามงคลวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  ทรงครองสิริราชสมบัติครบรอบ 50 ปี โดยจัดการเรียนการสอนทางไกลผ่านดาวเทียม  ถ่ายทอดสดหลักสูตรประถมศึกษา มัธยมศึกษา และสายวิชาชีพให้แก่โรงเรียนในสังกัดกรมสามัญศึกษา รวมทั้งการออกอากาศรายการภาคภาษาอังกฤษทางช่อง 81-95 (UBC) บริหารงานโดย มูลนิธิการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม หรือ Distance learning foundation (DLF)

                   สถานีวิทยุโทรทัศน์การศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม (DLTV) ดำเนินการออกอากาศ รายการโทรทัศน์เพื่อการศึกษา ใน 2 ลักษณะ ดังนี้

           1) การศึกษาในระบบโรงเรียน
           เป็นการจัดการศึกษา ตาม หลักสูตรการศึกษาในระบบโรงเรียน (Formal Education) ระดับประถมศึกษา มัธยมศึกษาตอนต้น และ มัธยมศึกษาตอนปลาย เพื่อช่วยเหลือโรงเรียนต่างๆ ในรายวิชาที่ขาดแคลนครูผู้สอน หรือเป็นรายวิชาที่มีเนื้อหาค่อนข้างยาก โรงเรียนที่ต้องการเข้าร่วมโครงการฯ สามารถทำได้ โดยจัดหาเครื่องรับสัญญาณดาวเทียม เพื่อรับชมรายการโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ตามตารางเวลาที่ออกอากาศ

           2) การจัดการศึกษาตามอัธยาศัย เป็นการจัดการศึกษา เพื่อให้ข่าวสาร ข้อมูล ความรู้ และทักษะที่เป็นประโยชน์ ต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนทั่วไป (Informal Education)
        การจัดการศึกษาผ่านดาวเทียม เพื่อการศึกษาตามอัธยาศัยนี้ กำหนดเนื้อหารายการ ให้สอดคล้องกับสภาพปัญหาในปัจจุบัน และ ความต้องการของประชาชน ในการพัฒนาสภาพความเป็นอยู่ รวมถึงคุณภาพชีวิตของประชาชน


6. ให้นิสิต Post รูปภาพเกี่ยวกับโทรคมนาคมเพื่อการศึกษาลงใน Weblogตอบ     ชมรูปภาพได้จากโพสต์ก่อนหน้าทาง engnarongritmandee.blogspot.com

แบบฝึกหัด สื่อมวลชนเพื่อการศึกษา


แบบฝึกหัด
1.           สื่อมวลชนเพื่อการศึกษามีกี่ประเภทอะไรบ้าง
ตอบ          6 ประเภท คือ
1. สิ่งพิมพ์ ได้แก่ หนังสือพิมพ์ วารสาร นิตยสาร หนังสือ และสิ่งตีพิมพ์ประเภทอื่นๆ
2. ภาพยนตร์ ทั้งภาพยนตร์เรื่อง ภาพยนตร์สารคดี และภาพยนตร์ทางการศึกษาบางประเภท
3. วิทยุกระจายเสียง ได้แก่วิทยุที่ส่งรายการออกอากาศ ทั้งระบบ AM และ FM รวมไปถึงระบบเสียงตามสาย
4. วิทยุโทรทัศน์ เป็นสื่อทางภาพและทางเสียงที่เผยแพร่ออกไป ทั้งประเภทออกอากาศและส่งตามสา
5. สื่อสารโทรคมนาคม เป็นผลจากความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยี มีการส่งข้อความ เสียง ภาพ ตัวพิมพ์ สัญลักษณ์ต่างๆ ได้หลากหลาย ครอบคลุมกิจการสื่อสารผ่านดาวเทียม โทรภาพ โทรพิมพ์
6. สื่อวัสดุบันทึก ได้แก่เทปบันทึกเสียง เทปบันทึกภาพ แผ่นบันทึกเสียง แผ่นบันทึกภาพ ซึ่งกลายเป็นสื่อมวลชน เพราะเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าทำให้สามารถผลิตเผยแพร่ได้มากและรวดเร็ว
2.           คุณค่าของสื่อมวลชนเพื่อการศึกษามีอะไรบ้าง จงอธิบาย
ตอบ          สื่อมวลชนเปรียบเสมือนครู ที่ให้การศึกษาแก่ประชาชนทั้งทางตรงและทางอ้อม ให้ทั้งความรู้ทางวิชาการใหม่ๆ และเจตคติในด้านต่างๆ ซึ่งถือได้ว่ามีความเป็นจริงอย่างมากในสังคมปัจจุบัน เนื่องจากสื่อมวลชนต่างๆ ได้แสดงบทบาทหน้าที่ทางด้านการศึกษาให้เห็นอย่างเด่นชัด
3.           ให้นิสิตยกตัวอย่างสื่อมวลเพื่อการศึกษามา 1 รายการ พร้อมอธิบายประโยชน์ของรายการนั้น ๆ
ตอบ          สารคดีชีวิตสัตว์โลก
ประโยชน์ของสารคดีชีวิตสัตว์โลก ได้แก่
1) ช่วยให้ผู้เรียนได้เห็นพฤติกรรมของสัตว์จริง ๆ โดยไม่ต้องลำบากไปยังสถานที่จริง
2) เปิดโลกของผู้เรียนได้กว้างขึ้น เพราะเป็นการให้ผู้เรียนได้รับรู้สิ่งใหม่ ๆ
3) กระตุ้นให้ผู้เรียนเกิดความต้องการการเรียนรู้
4) ผู้เรียนไม่เห็นว่าการศึกษาเป็นเรื่องที่น่าเบื่อ ยากต่อการทำความเข้าใจ
5) ผู้เรียนได้ศึกษาเรียนรู้ในสิ่งที่สนใจ และมีความสนุกสนาน

วันศุกร์ที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

ศึกษานอกสถานที่ วัสดุกราฟิก และแหล่งทรัพยากรการเรียนรู้ ณ สถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเล

        ที่สถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเล วิทยากรได้บรรยายเกี่ยวกับสัตว์น้ำทะเลต่าง ๆ มาก มาย ทั้งที่สวยงาม และที่เป็นสัตว์เศรษฐกิจของไทย ที่แห่งนี้ มีแหล่งเรียนรู้มากมาย ทั้งที่เป็นสิ่งมีชีวิตจริง ๆ นิทรรศการบรรยาย สัตว์สต๊าฟ รูปจำลอง ตู้อันตรทัศน์ ความรู้เกี่ยวกับสัตว์น้ำที่ได้รับ ยกตัวอย่างดังต่อไปนี้
         ปลาเป็นสัตว์มีกระดูกสันหลัง ที่มีความหลากหลายมากที่สุดในโลก โดยเฉพาะปลาทะเลปัจจุบันค้นพบมากกว่า 13,000 ชนิด พบว่าประมาณ 4,000 ชนิดชนิด อาศัยอยู่ตามแนวปะการังหรือแหล่งที่อยู่บริเวณชายฝั่ง

         ส่วนปลาทะเลของไทย ทั้งอ่าวไทยและทะเลอันดามัน นักวิทยาศาสตร์คาดว่าจะมีมากไม่น้อยกว่า 900 ชนิด ที่อาศัยอยู่ในแนวปะการัง รวมทั้งบริเวณพื้นที่แพร่กระจายทั่วไป

          พื้นที่ชายฝั่งทะเล มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อสังคมและเศรษฐกิจของประเทศ ที่ดินชายฝั่งทะเลมีทรัพยากรธรรมชาติที่มีค่ามากมาย เช่น ก๊าชธรรมชาติ น้ำ แร่ธาตุ อาหาร ชายหาด และทัศนียภาพอันงดงาม และยังเป็นพื้นที่สำคัญของโครงข่ายคมนาคมที่เป็นประตูเศรษฐกิจของประเทศอีกด้วย ดังนั้นพื้นที่ชายฝั่งทะเลจึงเป็นฐานเศรษฐกิจที่ผลิตสินค้าต่างๆ มากมาย  ที่ตั้งโรงงานอุตสาหกรรม แหล่งพาณิชยกรรม และแหล่งท่องเที่ยว แต่ขณะเดียวกัน พื้นที่ชายฝั่งทะเลก็ยังเป็นบริเวณที่มีความซับซ้อนและละเอียดอ่อนในด้านระบบนิเวศ ซึ่งอาจถูกทำลายได้ง่าย ทั้งโดยภัยธรรมชาติ และการกระทำของมนุษย์ ดังนั้น จึงจำเป็นต้องระวังเป็นอย่างยิ่งในการพัฒนา โดยมิให้เกิดการทำลายคุณค่าที่มีอยู่ เช่น โดยการตักตวงผลประโยชน์ หรือใช้ประโยชน์ในพื้นที่ชายฝั่งทะเลมากจนเกินไปหรือโดยการก่อให้เกิดปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมและมลพิษ

          ต่อไปนี้ เป็นรูปภาพการเยี่ยมชมสถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเล












          การเยี่ยมชมสถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเลในครั้งนี้ ทำให้ได้รู้จักสัตว์ทะเลต่าง ๆ ที่สวยงามและน่าสนใจมากมาย ทำให้รู้ว่าทะเลบ้านเรามีคุณค่ามาก ส่งผลให้เกิดความรักความหวงแหนทรัพยากรอันทรงคุณค่านี้
          
          นอกจากนี้ยังพบว่า การแสดงความรู้ต่าง ๆ สามารถนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยได้อย่างน่าอัศจรรย์ และทำให้การเรียนรู้ ไม่ใช่เรื่องน่าเบื่อ

วันจันทร์ที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

การใช้เทคโนโลยีการศึกษาในสถานศึกษา อบรมการใช้เทคโนโลยีการศึกษาที่สำนักหอสมุด มหาวิทยาลัยบูรพา

              วิทยากร ได้ให้ความรู้ เกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยีทางการศึกษา เช่น ระบบสืบค้นวัสดุสารสนเทศ (Web OPAC) การสืบค้นข้อมูลโดยการใช้ฐานข้อมูล EBSCO การสืบค้นฐานข้อมูลวิทยานิพนธ์ วิจัย บทความต่างๆ จากมหาวิทยาลัยทั่วประเทศโดยใช้ระบบ ThaiLIS TDC เป็นต้น 





             
                ที่สำนักหอสมุด มีบริการสารสนเทศในรูปเเบบต่างมากมาย อาธิ เช่น หนังสือทั้งภาษาไทยเเละภาษาต่างประเทศ วิทยานิพนธ์ ฐานข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ วารสารอิเล็กทรอนิกส์ หนังสืออ้างอิง สื่อโสตทัศน์ ชุดศึกษา VCD DVD ต่างๆ เทปเสียง รายการโทรทัศน์ผ่านดามเทียม บริการอินเทอร์เน็ต เป็นต้น
               นอกจากนี้ ยังมีบริการอื่นๆ อีก ได้่เเก่ การนำชมหอสมุด การฝึกอบรมการใช้งานเทคโนโลยีต่างๆ Book Showroom มุมคุณธรรม  บรืการห้องศึกษากลุ่ม-เดี่ยว ห้องมินิโฮมเธียเตอร์


ชั้นที่ 1 บริการที่สำหรับทำงาน กิจกรรมต่างๆ


Book Showroom @ ชั้น2 สำนักหอสมุด

มุมอ่านหนังสือ มีทุกชั้นในหอสมุด


บริการหนังสือทั้งภาษาไทยเเละภาษาต่างประเทศ วิทยานิพนธ์ หนังสืออ้างอิง ฯลฯ
@ ชั้น3,ชั้น4,ชั้น5 


ชั้น6 เป็นส่วนที่บริการในเรื่องสื่อโสตทัศน์ เทปเสียง ชุดศึกษา VCD DVD ต่างๆ รายการโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม บริการอินเทอร์เน็ต ห้องมินิโฮมเธียเตอร์ ฯลฯ

วันเสาร์ที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2555

แบบฝึกหัดสื่อเทคโนโลยีการศึกษา

1.ประเภทของสื่อเทคโนโลยีการศึกษาที่แบ่งตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ ได้กี่ประเภทอะไรบ้าง

ตอบ พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2)
พ.ศ. 2545 ได้ระบุไว้ในหมวด 9  ประกอบด้วย 4 ส่วนคือ
1. สื่อโสตทัศน์
2. สื่อมวลชน
3. สื่ออิเล็กทรอนิกส์และโทรคมนาคม รวมคอมพิวเตอร์
4. สื่อที่เป็นแหล่งวิทยาการเช่น หอสมุด ห้องสมุด พิพิธภัณฑ์  เป็นต้น


2. ประเภทของสื่อเทคโนโลยีการศึกษาที่แบ่งตามลักษณะทั่วไปได้กี่ประเภท อะไรบ้าง จงหาภาพมาประกอบ

ตอบ  สื่อเทคโนโลยีการศึกษาที่แบ่งตามลักษณะทั่วไปมี 4 ประเภท คือ

1.สื่อไม่ใช้เครื่องฉาย

• สิ่งพิมพ์ต่างๆ เช่น หนังสือ  ตำราเรียน  คู่มือฯ         

             
               
            • ของจริงของตัวอย่าง
           


            • ของจำลองหุ่นจำลองขนาดเท่าหรือขยายเท่าของจริง


            

            • วัสดุกราฟิก เช่น แผนภาพ แผนภูมิโปสเตอร์ ภาพถ่ายภาพเขียน การ์ตูน


             



            • กระดานดำ กระดานขาว

            

            • กระดานแม่เหล็กกระดานผ้าสำลี


            

            • การศึกษานอกสถานที่


            



2.สื่อที่ใช้เครื่องฉาย

• เครื่องฉายทึบแสง






• สไลด์





• วีดิทัศน์





3. สื่อที่ใช้เครื่องเสียง

• วิทยุ

• เทปบันทึกเสียง



• แผ่นซีดี






4.สื่อเชิงโต้ตอบ


• คอมพิวเตอร์




• บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน




• อินเตอร์เน็ต






• การสอนใช้เว็บเป็นฐานการสอนบนเว็บ





3. ประเภทของเทคโนโลยีการศึกษาที่แบ่งตามประสบการณ์ เป็นของนักการศึกษาท่านใด และมีการจัดประสบการณ์จากนามธรรมไปสู่รูปธรรมโดยเริ่มต้นจากประสบการณ์ใดไปประสบการณ์ใดจงอธิบาย

ตอบ  เอดการ์ เดล (Edgar Dale) ได้จัดแบ่งสื่อการสอนเพื่อเป็นแนวทางในการอธิบายถึงความสัมพันธ์ระหว่างโสตทัศนูปกรณ์ และแสดงเป็นขั้นตอนของประสบการณ์การเรียนรู้และการใช้สื่อ นำมาสร้างเป็น กรวยประสบการณ์”  (Cone of Experience ) แบ่งเป็นขั้นตอนดังนี้
     1. ประสบการณ์ตรง ซึ่งเป็นขั้นที่เป็นรูปธรรมมากที่สุด เพราะผู้เรียนได้รับประสบการณ์จากของจริง สถานที่จริง
     2. ประสบการณ์รอง ผู้เรียนเรียนจากสิ่งที่ใกล้เคียงกับความจริงที่สุด
     3.ประสบการณ์นาฏกรรมหรือการแสดง เป็นการแสดงบทบาทสมมติ หรือการแสดงละคร
     4. การสาธิต เป็นการแสดงหรือกระทำประกอบคำอธิบาย
     5. การศึกษานอกสถานที่ ให้ผู้เรียนได้รับประสบการณ์ภายนอกที่เรียน
     6. นิทรรศการ เป็นการจัดแสดงสิ่งของต่างๆ การจัดป้ายนิเทศ
     7.โทรทัศน์ ใช่ส่งได้ทั้งระบบวงจรเปิดหรือวงจรปิด การสอนจะเป็นการสอนสดหรือบันทึกลงบนวีดิทัศน์
     8. ภาพยนตร์ เป็นภาพที่บันทึกเรื่องราวเหตุการณ์ลงบนฟิล์ม
     9. การบันทึกเสียง วิทยุ ภาพนิ่ง เป็นการฟังหรือดูภาพโดยไม่ต้องอ่าน
    10. ทัศนสัญลักษณ์ เช่น แผนภูมิ แผนที่ แผนสถิติ
    11. วจนสัญลักษณ์ ซึ่งเป็นขั้นนามธรรมมากที่สุด ได้แก่ ตัวหนังสือ เสียงพูด




การจากกรวยประสบการณ์นี้  เดลได้จำแนกสื่อเป็น 3 ประเภท คือ
     1. สื่อประเภทวัสดุ หมายถึง สื่อที่เก็บความรู้อยู่ในตัวเองจำแนกย่อยได้ 2 ลักษณะ
          1.1วัสดุประเภทที่สามารถถ่ายทอดความรู้ได้ด้วยตนเองไม่จำเป็นใช้อุปกรณ์อื่นช่วย เช่น แผนที่ ลูกโลก รูปภาพ
          1.2วัสดุประเภทที่ไม่สามารถถ่ายทอดความรู้ได้ด้วยตนเองต้องอาศัยอุปกรณ์ช่วย เช่น แผ่นซีดี ฟิล์มภาพยนตร์ สไลด์
     2. สื่อประเภทอุปกรณ์ หมายถึง สิ่งที่เป็นตัวกลางหรือตัวผ่านทำให้ข้อมูลถ่ายทอดออกมาให้เห็นหรือได้ยิน
     3. สื่อประเภทเทคนิคและวิธีการ หมายถึง สื่อที่มีลักษณะเป็นแนวความคิดหรือรูปแบบขั้นตอนในการเรียนการสอน


4.การสื่อสารหมายถึงอะไร

ตอบ    คำว่า  การสื่อสาร (communications)  มีที่มาจากรากศัพท์ภาษาลาตินว่า  communis หมายถึง  ความเหมือนกันหรือร่วมกัน   การสื่อสาร (communication)    หมายถึงกระบวนการถ่ายทอดข่าวสาร  ข้อมูล ความรู้ ประสบการณ์  ความรู้สึก ความคิดเห็น ความต้องการจากผู้ส่งสารโดยผ่านสื่อต่าง ๆ ที่อาจเป็นการพูด การเขียน สัญลักษณ์อื่นใด การแสดงหรือการจัดกิจกรรมต่าง ๆ ไปยังผู้รับสาร ซึ่งอาจจะใช้กระบวนการสื่อสารที่แตกต่างกันไปตามความเหมาะสม หรือความจำเป็นของตนเองและคู่สื่อสาร  โดยมีวัตถุประสงค์ให้เกิดการรับรู้ร่วมกันและมีปฏิกิริยาตอบสนองต่อกัน  บริบททางการสื่อสารที่เหมาะสมเป็น ปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้การสื่อสารสัมฤทธิ์ผล



5.สื่อและเทคโนโลยีการศึกษาเป็นส่วนหนึ่งของการสื่อสารในองค์ประกอบใด จงอธิบาย

ตอบ  เป็นสื่อและช่องทางเพราะเป็นสื่อกลางที่มนุษย์สร้างขึ้นมาเพื่อใช้ในการติดต่อสื่อสารซึ่งกันและกัน เช่น สิ่งพิมพ์ กราฟิก สื่ออิเล็กทรอนิกส์



6.จงเขียนแบบจำลองของการสื่อสารของเดวิดเบอร์โล มาพอเข้าใจ

ตอบ  เดวิด เค เบอร์โล (David K. Berlo) เสนอแบบจำลองการสื่อสารไว้    เมื่อปี พ.. 2503 โดยอธิบายว่า การสื่อสารประกอบด้วยส่วนประกอบพื้นฐานสำคัญ 6 ประการ คือ

            1. ต้นแหล่งสาร (communication source)

2. ผู้เข้ารหัส (encoder)

3. สาร (message)

4. ช่องทาง (channel)

5. ผู้ถอดรหัส (decoder)

6. ผู้รับสาร (communication receiver)

จากส่วนประกอบพื้นฐานสำคัญ 6 ประการนั้น เบอร์โล ได้นำเสนอเป็นแบบจำลองการสื่อสารที่รู้จักกันดีโดยทั่วไปว่า "แบบจำลอง SMCR ของเบอร์โล"(Berlo's SMCR Model)โดยเบอร์โลได้รวมต้นแหล่งสารกับผู้เข้ารหัสไว้ในฐานะต้นแหล่งสารหรือผู้ส่งสาร และรวมผู้ถอดรหัสกับผู้รับสารไว้ในฐานะผู้รับสาร แบบจำลองการสื่อสารตามแนวคิดของเบอร์โลนี้ จึงประกอบไปด้วย S (Source or Sender) คือ ผู้ส่งสาร M (Message) คือ สาร C (Channel) คือ ช่องทางการสื่อสาร R (Receiver) คือ ผู้รับสาร ซึ่งปรากฎในภาพต่อไปนี้





จากแบบจำลองการสื่อสารตามแนวคิดของเบอร์โลข้างต้นนี้ แสดงให้เห็นว่า ผู้ส่งสาร (Source or S) คือ ผู้เริ่มต้นการสื่อสาร ทำหน้าที่ในการเข้ารหัส ซึ่งผู้ส่งสารจะทำหน้าที่ในการสื่อสารได้ดีเพียงใดนั้น ขึ้นอยู่กับคุณสมบัติต่าง ๆ 5 ประการคือ

1. ทักษะในการสื่อสาร เช่น ความสามารถในการพูด การเขียน และ ความสามารถในการคิดและการใช้เหตุผล เป็นต้น

2. ทัศนคติ หมายถึง วิธีการที่บุคคลประเมินสิ่งต่าง ๆ โดยความโน้มเอียงของตนเองเพื่อที่จะเข้าถึงหรือเป็นการหลีกเลี่ยงสิ่งนั้น ๆ เช่น ทัศนคติต่อตนเอง ต่อหัวข้อของการสื่อสาร ต่อผู้รับสาร ต่อสถานการณ์แวดล้อมการสื่อสารในขณะนั้น เป็นต้น

3. ความรู้ หมายถึง ความรู้ของผู้ส่งสาร ในเหตุการณ์หรือเรื่องราวต่าง ๆ บุคคลหรือกรณีแวดล้อมของสถานการณ์การสื่อสารในครั้งหนึ่ง ๆ ว่ามีความแม่นยำหรือถูกต้องเพียงไร

4. ระบบสังคม ซึ่งจะเป็นตัวกำหนดพฤติกรรมการสื่อสารของบุคคล เพราะบุคคลจะขึ้นอยู่กับกลุ่มทางสังคมที่ตนเองอยู่ร่วมด้วย

5. ระบบวัฒนธรรม หมายถึง ขนบธรรมเนียม ค่านิยม ความเชื่อ ที่เป็นของตัวมนุษย์ในสังคม และเป็นตัวกำหนดที่สำคัญในการสื่อสารด้วย เช่น การสื่อสารระหว่างบุคคลต่างวัฒนธรรมกัน อาจประสบความล้มเหลวได้เนื่องจากความคิดและความเชื่อที่มีไม่เหมือนกันระหว่างผู้ส่งสารและผู้รับสาร
<!--[if !supportLineBreakNewLine]-->
<!--[endif]-->


7.อุปสรรคของการสื่อสารมีอะไรบ้าง

ตอบ  อุปสรรคในการสื่อสาร หมายถึง สิ่งที่ทำให้การสื่อสารไม่บรรลุตามวัตถุประสงค์ ของผู้สื่อสาร และผู้รับสาร   อุปสรรคในการสื่อสารอาจเกิดขึ้นได้ทุกขั้นตอนของกระบวนการสื่อสาร ดังนั้นอุปสรรค ในการสื่อสารจากองค์ประกอบต่าง ๆ ดังนี้

•อุปสรรคที่เกิดจากผู้ส่งสาร
 1.1  ผู้ส่งสารขาดความรู้ความเข้าใจและข้อมูลเกี่ยวกับสารที่ต้องการจะสื่อ 
 1.2  ผู้ส่งสารใช้วิธีการถ่ายทอดและการนำเสนอที่ไม่เหมาะสม 
 1.3  ผู้ส่งสารไม่มีบุคลิกภาพที่ไม่ดี และไม่เหมาะสม 
 1.4  ผู้ส่งสารมีทัศนคติที่ไม่ดีต่อการส่งสาร 
 1.5  ผู้ส่งสารขาดความพร้อมในการส่งสาร 
 1.6  ผู้ส่งสารมีความบกพร่องในการวิเคราะห์ผู้รับสาร


•อุปสรรคที่เกิดจากสาร
 2.1  สารไม่เหมาะสมกับผู้รับสาร อาจยากหรือง่ายเกินไป 
 2.2  สารขาดการจัดลำดับที่ดี สลับซับซ้อน ขาดความชัดเจน 
 2.3  สารมีรูปแบบแปลกใหม่ยากต่อความเข้าใจ 
 2.4  สารที่ใช้ภาษาคลุมเครือ ขาดความชัดเจน 



•อุปสรรคที่เกิดจากสื่อหรือช่องทาง
3.1  การใช้สื่อไม่เหมาะสมกับสารที่ต้องการนำเสนอ 
3.2  การใช้สื่อที่ไม่มีประสิทธิภาพที่ดี 
3.3  การใช้ภาษาที่ไม่เหมาะสมกับระดับของการสื่อสาร 



•อุปสรรคที่เกิดจากผู้รับสาร
 4.1  ขาดความรู้ในสารที่จะรับ 
 4.2  ขาดความพร้อมที่จะรับสาร 
 4.3  ผู้รับสารมีทัศนคติที่ไม่ดีต่อผู้ส่งสาร 
 4.4  ผู้รับสารมีทัศนคติที่ไม่ดีต่อสาร 
 4.5  ผู้รับสารมีความคาดหวังในการสื่อสารสูงเกินไป 






8.บทเรียน  e-Learning  เป็นส่วนใดขององค์ประกอบของการสื่อสาร
ตอบ  เป็นผู้ส่ง   ผู้รับ   สื่อกลาง   และข้อมูลข่าวสารสนเทศ
<!--[if !supportLineBreakNewLine]-->
<!--[endif]-->



9.ครูบอยกำลังสอนเนื้อหาวิชาภาษาอังกฤษเรื่อง Grammar ด้วยวีดิทัศน์กับนักเรียนชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 1 จากข้อความดังกล่าวให้นิสิตเขียนแบบจำลองการสื่อสารของเดวิดเบอร์โล


ตอบ  





10.การปฐมนิเทศนิสิตใหม่ ณ หอประชุมธำรงบัวศรี เป็นการสื่อสารประเภทใด


ตอบ  การสื่อสารแบบกลุ่มใหญ่ (Large group Communication)